วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ระบบย่อยอาหารของมนุษย์

ระบบย่อยอาหารของมนุษย์

  ระบบย่อยอาหาร ประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้

1. ปาก (Month) เริ่มจากภายในปากมีฟัน (Teeth) ที่ทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ซึ่งเป็นการย่อยเชิงกล ในขณะเดียวกันลิ้น (tongue) ที่รับรสอาหาร ก็จะช่วยคลุกเคล้าอาหารกับน้ำลายที่มีเอนไซม์อะไมเลส (amylase) ที่ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งให้มีขนาดเล็กลง

2. คอหอย (Pharynx) เป็นทางผ่านของอาหารจากปากลงสู่หลอดอาหาร คอหอยจะมีท่อที่เชื่อมระหว่างหลอดลมและหลอดอาหาร

3. หลอดอาหาร (Esophagus) โดยกล้ามเนื้อของผนังหลอดอาหารจะบีบตัวเป็นลูกคลื่นระยะ ๆ เรียกว่า เพอริสทัลซีส (peristalsis) เพื่อให้อาหารลงสู่กระเพาะอาหารและไม่ย้อนกลับสู่หลอดอาหารอีก

4. กระเพาะอาหาร (Stomach) มีลักษณะเป็นถุงที่จุประมาณ 2 – 4 ลิตร ผนังของกระเพาะอาหารเป็นกล้ามเนื้อหนาที่แข็งแรงและยืดหยุ่น กระเพาะอาหารจะผลิตกรดไฮโดรคลอริก (กรดเกลือ) ช่วยทำให้อาหารอ่อนตัวและกรดนี้จะเปลี่ยนเอนไซม์ที่ไม่มีฤทธิ์ให้กลายเป็นเอนไซม์เพปซิน (pepsin) ช่วยย่อยโปรตีน

5. ลำไส้เล็ก (Small Intestine) เป็นท่อขดไปมาในช่องท้อง ผนังด้านในมีส่วนยื่นออกมา เรียกว่า วิลลัส (villus) ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูดซึมอาหาร ภายในลำไส้เล็กมีต่อมสร้างน้ำย่อยที่ย่อยแป้ง น้ำตาล และโปรตีน หน้าที่สำคัญของลำไส้เล็กคือย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร

6. ตับ (Liver) เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย อยู่ใต้ชายโครงด้านขวา มีต่อมขนาดใหญ่ทำหน้าที่สร้างน้ำดี (Bile) แล้วเก็บไว้ในถุงน้ำดี และจากถุงน้ำดีจะมีท่อส่งต่อมายังลำไส้เล็ก ทำให้ลำไส้เล็กสามารถย่อยอาหารประเภทไขมันและดูดซึมง่ายขึ้น

7. ตับอ่อน (Pancreas) อยู่ระหว่างกระเพาะอาหารกับลำไส้เล็กตอนบน ทำหน้าที่ช่วยสร้างน้ำย่อยให้ลำไส้เล็ก นอกจากนี้ยังสร้างฮอร์โมนมีผลต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือด นั่นคือ ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin)

8. ลำไส้ใหญ่ (Large Intestine) ไม่มีหน้าที่ย่อยอาหาร แต่มีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เหลือจากการดูดซึมของลำไส้เล็กเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นจะบีบตัวเพื่อให้กากอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรืออุจจาระ ออกนอกร่างกายทางทวารหนัก (Rectum)


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------ฐิติพงศ์ สืบสิน-----------------------------------------------------
----------------------------------------------------#16 3/12 36712------------------------------------------------- 

ระบบสืบพันธุ์

ระบบสืบพันธุ์

ระบบสืบพันธุ์เพศชาย
ตัวหลักในการสร้าง Sperm และ ฮอร์โมนต่างๆที่เกี่ยวกับเพศชายจะอยู่ที่ “อัณฑะ” เป็นหลักครับ
หลังจากมีการสร้าง Sperm และสารคัดหลั่งต่างๆแล้ว   Sperm นั้นจะได้รับการลำเลียงไปตามท่อต่างๆและเก็บบางส่วนไว้ใน seminal vesicle(ถุงเก็บอสุจิ) เพื่อรอการหลั่งออกมา
การแข็งตัวของอวัยวะเพศนั้น  ได้รับการควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติโดยสิ่งที่กระตุ้นระบบประสาทนั้น คือ อารมณ์ เป็นหลักครับ  เมื่อมีการกระตุ้นโดยระบบประสาท Parasympathetic(พาราซิมพาเทติก) จะกระตุ้นให้เกิดการคลั่งของเลือดในอวัยวะเพศ ทำให้อวัยวะเพศนั้นขยายขนาด และเริ่มแข็งตัวขึ้นครับ
เมื่อการกระตุ้นถึงระดับที่สมควร ระบบประสาท Sympathetic(ซิมพาเทติก) จะกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวถุงเก็บอสุจิ เพื่อหลั่ง sperm ออกมา ที่ปลายอวัยวะเพศชายครับ และหลังจากนั้นร่างกายจะเข้าสู่ระยะพักและผ่อนคลาย
จากการศึกษาแล้ว Sperm นั้นสามารถมีชีวิตอยู่ใน อวัยวะเพศหญิงได้นาน 3-5 วันเลยทีเดียวนะครับ

ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงนั้นมีความแตกต่างกับเพศชายพอสมควรครับ  เพศชายนั้นสามารถสร้าง Sperm ได้ตลอดเวลา ต่างจากเพศหญิงที่การสร้าง Egg(ไข่) นั้นต้องใช้เวลาเพื่อสร้างและเตรียมการนานในระดับเดือนเลยทีเดียว
เพศหญิงมีรอบ “การเจริญเติบโตของไข่” และ “การเตรียมความพร้อมของมดลูก” ซึ่งใช้เวลาประมาณ 28 วันโดยเฉลี่ยครับ อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับรอบของการสืบพันธุ์นั้นมีดังนี้ครับ
  • Hypothalamus (ต่อมใต้สมอง) ทำการหลั่ง GnRH เพื่อไปกระตุ้น Pituitary
  • Pituitary gland (ต่อมพิทูอิทารี่) ทำการหลั่ง FSH (Follicular Stimulating Hormone) และ LH (Luteinizing Hormone) เพื่อกระตุ้น Ovary
  • Ovary (รังไข่) ทำหน้าที่ในการสร้าง Egg (ไข่) ซึ่งเป็นเซลล์หลักในการขนส่งสารพันธุกรรม เพื่อการกำเนิดชีวิต และรังไข่ยังหลั่ง Estrogen(อีสโตรเจน) Progesterone(โปรเจนเตอโรน) Inhibin(อินฮิบิน)
  • Uterus (มดลูก) ทำหน้าที่หนาตัวขึ้น เป็นรอบๆ เพื่อรอรับการฝังตัวของ ไข่ที่รับการปฏิสนธิแล้ว และเป็นบ้านสำหรับชีวิตใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น
BONUS
หลั่งข้างนอกจะท้องได้ไหม?
ได้สิครับน้อง มาดูเหตุผลกัน ขณะที่อวัยวะเพศชายเริ่มแข็งตัว จะมีน้ำจากต่อม Cowper’s หลั่งออกมาเพื่อเตรียมพร้อมท่อนำอสุจิให้หายจากความเป็นกรด  เราเรียกสิ่งนี้ว่า Pre-cum fluid  และจากการศึกษาพบว่าของเหลวนี้ มีอสุจิผสมอยู่  ถ้าสังเกตดูจะเป็นน้ำใสๆเหนียวๆที่ปลายอวัยวะเพศครับ เพราะฉะนั้นไม่ปลอดภัยครับ

คุมกำเนิดแบบไหนดีที่สุด? 
คำถามนี้ต้องเลือกเป็นรายๆไปครับ สำหรับครอบครัวที่มีบุตรเพียงพอการทำหมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนบุคคลทั่วไปที่ ถุงยางอนามัยน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะป้องกันทั้งการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------ฐิติพงศ์ สืบสิน-----------------------------------------------------
----------------------------------------------------#16 3/12 36712-------------------------------------------------